เปลี่ยน มุมเก่า ในบ้านให้สวยปัง!

เคยเป็นไหม หากพื้นที่ใช้สอยที่มีในบ้านไม่ค่อยตอบโจทย์การใช้งาน เราก็มักปล่อยให้มีสภาพเก่าทรุดโทรม กระทั่งในที่สุดก็ไม่เหลียวแลพื้นที่นั้นอีกเลย ครั้นจะทุบรื้อทำใหม่ก็เป็นเรื่องที่ยุ่งยากและซับซ้อน ครั้งนี้ “บ้านและสวน” ขอชวนคุณผู้อ่านลุกขึ้นมาปัดฝุ่นและแปลงโฉม มุมเก่า ในบ้านให้กลับมาสวยงามและน่าใช้งานอีกครั้ง เรายกตัวอย่างมาให้ชมกัน 3 รูปแบบ ได้แก่ ครัวและมุมรับประทานอาหารนอกบ้าน ห้องนอนสำรอง และห้องรับแขกในบ้าน โดยไอเดียการแปลงโฉมครั้งนี้เป็นการดัดแปลงนำของเก่าที่มีอยู่แล้วมาชุบชีวิตใหม่ให้ดูสดใสมากขึ้น เน้นความสะดวกและใช้เวลาไม่นาน

Coral Blue Oriental ผ่อนคลายในความสง่างาม

ห้องรับแขกมักเป็นพระเอกของบ้านเสมอ หากออกแบบได้สวยงามจนแขกเอ่ยปากชม ก็คงสร้างความภูมิใจและรอยยิ้มให้เจ้าของบ้านได้ไม่น้อย แต่นอกจากความน่ามองแล้ว ก็ควรมีการใช้งานที่สะดวกสบายด้วย การเปลี่ยนโฉมห้องรับแขกห้องนี้เลือกใช้สีน้ำเงินเป็นตัวคุมโทน ซึ่งจัดอยู่ในโทนสีเย็นที่ดูผ่อนคลายสบายตาขณะเดียวกันก็ดูสง่างาม เติมเสน่ห์ให้มุมนี้ด้วยผ้าบุเก้าอี้และปลอกหมอนที่ให้กลิ่นอายแบบโอเรียนทัล เสริมให้บรรยากาศภายในห้องนี้ดูอบอุ่นยิ่งขึ้น

BEFORE ห้องรับแขกที่ดูไร้ชีวิตชีวา เจ้าของบ้านต้องการเปลี่ยนอารมณ์ของห้องให้ดูสดใสและน่าใช้งานขึ้น เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ก็ซีดหมองและดูธรรมดาเกินไป รวมถึงผ้าม่านสีฟ้าที่มีคราบดำจากฝุ่น

ปรับเพื่อเปลี่ยน

A. การเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ใหม่เป็นการตกแต่งภายในห้องที่ง่ายที่สุด ใช้เวลาไม่นานและไม่ยุ่งยากด้วย ห้องนี้ได้รับแสงธรรมชาติตลอดช่วงกลางวัน จึงเลือกใช้สีน้ำเงินโทนสว่างได้แบบไม่ต้องกลัวห้องจะอึดอัด โทนสีนี้ยังให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างามอีกด้วย

ติดวอลล์เปเปอร์

วิธีการ – เตรียมผนังให้พร้อมก่อนการติดวอลล์เปเปอร์ เช่น ถ้ามีรอยหรือรูก็ทายาโป๊สำเร็จรูปให้เรียบร้อย แล้วใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด จากนั้นวัดความสูงของผนังแล้วตัดวอลล์เปเปอร์ตามขนาดดังกล่าว นำกาวสำเร็จรูปสำหรับติดวอลล์เปเปอร์มาผสมกับน้ำให้เจือจางลง ทากาวที่ด้านหลังของวอลล์เปเปอร์ ทิ้งไว้สัก 5 นาที และทาที่ผนังด้วย จากนั้นนำวอลล์เปเปอร์ไปติดบนผนัง ใช้คัตเตอร์ตัดมุมรอยต่อระหว่างผนังกับขอบบัวและพื้น จากนั้นใช้ไม้บรรทัดเหล็กหรือลูกกลิ้งกดให้ติดเรียบเนียน ไม่มีฟองอากาศ

B. การเปลี่ยนผ้าบุเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่านใหม่ก็ช่วยเปลี่ยนอารมณ์ของห้องได้ดีเช่นกัน โดยเลือกลวดลายผ้าที่แฝงกลิ่นอายของสไตล์โอเรียนทัล ทำให้ห้องดูสวยแปลกตาและน่านั่งมากขึ้นด้วย

บุผ้าใหม่

วิธีการ –วัดขนาดเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการบุ เพื่อนำไปคำนวณปริมาณผ้าที่จะใช้ อย่าลืมเผื่อขอบด้านข้างสำหรับเย็บขอบ กว้างประมาณ ½-1 นิ้ว ผ้าที่ใช้บุเฟอร์นิเจอร์ควรมีความหนาพอสมควร เพื่อให้ผ้าจับทรงตามรูปได้ดี ตัวอย่างปริมาณผ้าที่ต้องใช้ก็เช่น สตูล ขนาด 80X 80×40 เซนติเมตร ใช้ผ้าจำนวน 2 หลา ส่วนปลอกหมอน ขนาด 70X 70 เซนติเมตร ใช้ผ้าจำนวน 1 หลา หรือง่ายที่สุดคือบอกขนาดของเฟอร์นิเจอร์ แล้วให้ทางร้านคำนวณขนาดและราคาให้ก็ได้

C. หน้าบานตู้ไม้แบบเดิมที่ดูเรียบง่าย เจ้าของบ้านต้องการให้มีลูกเล่นใหม่ที่เข้ากับอารมณ์แบบคลาสสิก จึงเลือกเติมคิ้วบัวขนาดเล็กบนหน้าบานและทำสีขาว เพื่อให้เข้ากับโทนสีขาว – น้ำเงินของห้อง

เปลี่ยนหน้าบานตู้

วิธีการ – ถอดหน้าบานตู้ออก ใช้กระดาษทราย เบอร์ 120 ขัด เพื่อให้สียึดเกาะได้ดีขึ้น หลังจากนั้นถอดมือจับออก วัดระยะของหน้าบานตู้ที่ต้องการติดบัว ใช้ดินสอกำหนดระยะ แล้วใช้เลื่อยวงเดือนตัดเป็นมุม 45 องศา ทากาวลาเท็กซ์ที่ด้านหลังของบัว กดให้ติดสนิทกับหน้าบานตู้ ตอกตะปูยึดบัว แล้วใช้พุตตี้อุดโป๊ช่องระหว่างไม้ จากนั้นใช้กระดาษทรายขัดตรงรอยต่อให้เรียบเสมอกัน ก่อนปัดฝุ่นทำความสะอาดให้เรียบร้อย จึงค่อยทาสีทับ 4-5 รอบ

เทคนิคการใช้ลวดลายที่แตกต่างกันในพื้นที่เดียวกันให้ออกมาดูสวยงามไม่ใช่เรื่องยาก โดยควรใช้สีสันในปริมาณที่พอดี หากยังกล้า ๆ กลัว ๆ ลองเลือกใช้โทนสีแบบโมโนโทน ไล่ระดับความเข้มอ่อน ใช้สีเป็นตัวนำ จากนั้นจึงค่อยเลือกลวดลายที่มีขนาดคละกัน เช่น หากใช้ในพื้นที่กว้างหรือใช้เปอร์เซ็นต์มากที่สุดในห้อง ควรเลือกใช้สีเรียบหรือลวดลายละเอียดขนาดเล็ก ก็จะดูสบายตากว่า ส่วนลวดลายขนาดกลางและขนาดใหญ่ควรใช้กับพื้นที่ที่จำกัดลงมาหรือมุมที่ต้องการความเด่น แต่สิ่งสำคัญคือการเบรกด้วยพื้นที่เรียบ ๆ หรือสีพื้นบ้าง จะทำให้ห้องดูสบายตาและน่านั่งมากขึ้น

Source: http://www.baanlaesuan.com/26193/house/makeover-3/